รู้ก่อนรีโนเวท ปลอดภัย ใช้งานได้นาน ไม่ต้องแก้ซ้ำ!
การรีโนเวทห้องน้ำเป็นงานที่ดูเหมือนเล็ก แต่จริง ๆ แล้วเป็นหนึ่งในงานก่อสร้างที่ต้องใช้ความละเอียดสูงที่สุด เพราะ “ความชื้น” และ “การรั่วซึม” คือศัตรูตัวฉกาจของบ้านทุกหลัง หากขาดการวางแผนและขั้นตอนที่ถูกต้อง ห้องน้ำใหม่ของคุณอาจกลายเป็นปัญหาซ้ำซ้อนในเวลาไม่นาน คู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกขั้นตอนสำคัญของการ รีโนเวทห้องน้ำแบบไม่รั่วซึม อย่างถูกวิธี
ก่อนเริ่มรื้อ ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ
รอยร้าวหรือการทรุดของพื้น
การรั่วซึมจากท่อเดิม
จุดต่อระหว่างผนัง–พื้น และบริเวณท่อระบายน้ำ
หากพบปัญหา ควรซ่อมแซมก่อนเริ่มปูกระเบื้องใหม่ เพราะแม้กระเบื้องจะสวยแค่ไหน หากฐานไม่แน่น ก็ยังรั่วได้ในอนาคต
จุดสำคัญที่ต้อง “กันซึม” คือ
พื้นห้องน้ำทั้งหมด (โดยเฉพาะรอยต่อระหว่างพื้นกับผนัง)
ผนังสูงจากพื้นขึ้นไปอย่างน้อย 30 เซนติเมตร
พื้นห้องอาบน้ำ หรือโซนเปียก
วัสดุกันซึมยอดนิยม เช่น
ซีเมนต์กันซึม (Waterproof Cement) – เหมาะกับห้องน้ำทั่วไป
เมมเบรนกันซึม (Sheet Membrane) – ใช้ในจุดเสี่ยงสูง เช่น ดาดฟ้า หรือห้องน้ำชั้นบน
💡 เคล็ดลับ: หลังทากันซึมควรทิ้งไว้ให้แห้ง 24–48 ชั่วโมง และเทน้ำทดสอบรั่วก่อนปูกระเบื้อง
ห้องน้ำควรมี ความลาดเอียงประมาณ 1:100 เพื่อให้น้ำไหลลงท่อได้ดี
เลือกใช้กระเบื้อง กันลื่น (Slip Resistance) โดยเฉพาะในโซนเปียก เช่น พื้นอาบน้ำ
ส่วนบริเวณผนังควรเลือกกระเบื้อง ดูแลง่าย กันเชื้อรา เพื่อความสะอาดและทนทาน
ควรใช้ท่อ PVC ชั้นดี และติดตั้งโดยช่างมืออาชีพ
เพราะท่อระบายน้ำเป็นจุดที่เกิดการรั่วซึมบ่อยที่สุด
ตรวจสอบการต่อข้อต่อทุกจุด และทดสอบน้ำก่อนปิดผิว
เก็บยาแนวให้เรียบเนียน ไม่เหลือรูอากาศ
ใช้ซิลิโคนกันน้ำบริเวณขอบอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และบัวอาบน้ำ
ทดสอบระบบน้ำทั้งหมดก่อนส่งมอบงาน
การรีโนเวทห้องน้ำที่ดีไม่ได้อยู่ที่ความสวยงามเท่านั้น
แต่คือการ ป้องกันปัญหาน้ำซึมตั้งแต่ต้นทาง
เลือกใช้ช่างมืออาชีพ และวัสดุกันซึมที่ได้มาตรฐาน
คุณจะได้ห้องน้ำใหม่ที่ใช้งานได้ยาวนานและไม่ต้องซ่อมซ้ำ
ตรวจเช็กพื้นก่อนทุกครั้ง
ใช้วัสดุกันซึม 2 ชั้น สำหรับห้องน้ำชั้นบน
หมั่นตรวจดูยาแนวทุก 6 เดือน
อย่าปิดงานเร็วเกินไปก่อนวัสดุแห้งสนิท
ติดต่อทีมรีโนเวทห้องน้ำมืออาชีพ
รับรีโนเวทห้องน้ำครบวงจร ป้องกันรั่วซึมทุกขั้นตอน
📞 โทร. 0981617859 | ให้คำปรึกษาฟรี